วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2554

Time

ปฏิทินไทย
                 ปฏิทิน แปลว่า แบบสำหรับดู วัน เดือน ปี สามารถเขียนได้เป็น ประติทิน (ภาษาสันสกฤต)
หรือ ประฏิทิน (บาลีแผลง) ประดิทิน หรือ ประนินทิน ก็ได้ คำหลังนี้พบในหนังสือที่เขียนโดย หมอ บรัดเลย์
ในหนังสือ อักขราภิธานศรับท์ หน้า 412 และหนังสือ สยามสมัย หน้าโษณา ของ หมอ สมิท เป็นต้น
แบบสำหรับดู วัน เดือน ปี มีทั้งที่จารึกบนก้อนหิน หรือ ขีด เขียน และพิมพ์บนกระดาษ ซึ่งมีทั้งชนิดเป็นแผ่น
ตั้งแต่ 1 – 12 แผ่น และชนิดพิมพ์เป็นเล่มแบบหนังสือปฏิทินชนิดเล่ม

.





 
การพิมพ์ปฏิทินมีขึ้นเป็นครั้งแรกในเมืองไทย
เมื่อ วันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2385 (ปลายสมัย รัชกาล ที่ 3)
ซึ่งสามารถตรวจสอบและค้นคว้าหาหลักฐานไ
จาก ไมโครฟิล์ม หนังสือบางกอกคาเลนดาร์ ปี ค.ศ. 1870 ( พ.ศ. 2413 )
หน้า 5 ในหอสมุดแห่งชาติ หรือค้นคว้าได้จากหนังสือต้นฉบับ
ที่หอสมุดดำรงราชานุภาพ ซึ่งหมอ บรัดเลย์ ได้เขียนไว้ว่า
“ 14 First Calendar print in B. 1842 ” (ไม่บอกว่าใครเป็นผู้พิมพ์ แต่คาดหมายว่า
คือ หมอ บรัดเลย์ ซึ่งเป็นเจ้าของโรงพิมพ์ ผู้มีผลงานทางหนังสือมากมาย)

                 รัชกาลที่ 4 ทรง ฯ โปรดให้พิมพ์ปฏิทินภาษาไทย
(ภายหลังจากที่ หมอบรัดเลย์ พิมพ์ปฏิทินชิ้นแรกในสยาม
เมื่อ พ.ศ. 2385) เมื่อ วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2404
ดังปรากฏหลักฐานใน หนังสือบางกอกคาเลนดาร์
ฉบับ ปี ค.ศ. 1862 ( พ.ศ. 2405) หน้า 108

                 ในสมัย รัชกาลที่ 5 ปฏิทินที่พิมพ์ในเมืองไทยได้แก่ “ ประนินทิน ”
ซึ่งลงโฆษณาใน หนังสือสยามสมัย ของ หมอสมิท
เขียนคำโฆษณาไว้ตอนหนึ่ง ว่า “ ประนินทินนี้
แจ้งให้รู้ถึงการอื่นเป็นอันมากอันควรคนทั้งปวงจะรู้ ถ้าไม่รู้เขาจะนินทาว่าคนโง่ ”
แจ้งราคาขายไว้เล่มละ 4 บาท (ราคาในสมัยนั้น)
ปัจจุบันยังหาประนินทินของหมอสมิทไม่พบ

                 ปฏิทินในสมัย รัชกาลที่ 6 ที่น่าสนใจได้แก่ปฏิทินพกเล่มเล็กๆ
ที่พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้พิมพ์เป็นของชำร่วย
สำหรับแจกพระราชทาน แก่ขุนนางที่ลงนามถวายพระพร ในวันขึ้นปีใหม่ |
ฏิทินพกแบบนี้ยังมีแจกต่อมาจนถึงรัชกาลปัจจุบัน
ซึ่งบุคคลธรรมดาก็สามารถไปลงนามถวายพระพรและรับปฏิทินหลวงได้
                 การพิมพ์ปฏิทินเล่มยังมีการจัดทำต่อมา จนกระทั่งถึงรัชกาลปัจจุบัน
ปฏิทินเล่มยังมีรายละเอียดในเรื่องของ สภาพภูมิอากาศ
เวลาน้ำขึ้น – น้ำลง การเดินทางของดวงจันทร์และดวงอาทิตย์
และมีช่องว่างให้บันทึกเล็กน้อย
ยังมีสมุดบันทึกอีกแบบหนึ่ง ซึ่งบอกรายละเอียดของ วัน เดือน ปี
เรียงไปตามลำดับ และมีหน้าสำหรับจดบันทึกหมายเหตุรายวัน
รวมถึงวันสำคัญ และวัน เวลา นัดหมาย ฯลฯ ที่เรียกว่า “ ไดอารี่ ” (Diary)
หรือ ” สมุดบันทึกประจำวัน ”
ก็สามารถอนุโลมให้เป็นปฏิทินได้               

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น